วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

หน้าแรก

ชีวิตในยุคโลกไซเบอร์และการสื่อสารไร้พรมแดน
(Cyber Life & Globalization)

           ทุกวันนี้ โลกไร้พรมแดนไม่ใช่เรื่องในจินตนาการอีกต่อไป เทคโนโลยีทางการสื่อสารไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ พีซี โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์
มือถือพีดีเอโฟน ต่างเข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญของชีวิตมนุษย์ ทุกผู้ทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “วัยรุ่น” (อายุเฉลี่ยโดยประมาณ 14-15 ปี ขึ้นไป)
วัยรุ่นกับเทคโนโลยี จึงกลายเป็น คู่ขาปาท๋องโก๋ ไปซะแล้ว
                    
                    โลกไซเบอร์ หรือ อินเตอร์เน็ต (Internet) ก้าวรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว จากเมื่อก่อนจะใช้ได้เฉพาะภายในสำนัก และองค์กรของรัฐเท่านั้น แต่ขณะนี้ อินเตอร์เน็ตหาได้ทั่ว ๆ ไป เพียงแค่มี เครื่องคอมพิวเตอร์ พีซี ที่พอจะมีประสิทธิ์ภาพในการรองรับการเชื่อมต่อ ก็สามารถเข้าสู่โลก
ไซเบอร์ได้อย่างง่ายดาย ชีวิตในโลกไซเบอร์ ทุกคนล้วนมีสถานะอิสระ ได้เป็นเท่าที่ตัวเองต้องการ และอยู่บนพื้นฐานที่มีทั้งความเป็นจริง และ
ความหลอกลวงปะปนอยู่ในนั้น และ ณ เวลานี้ เหมือนชีวิตประจำวันได้เชื่อมโยงกับไซเบอร์จนแทบจะแยกกันไม่ออก เว็บบล็อกก้าวเข้ามาสู่ชีวิต
เปรียบเสมือนเส้นสายใยระหว่างผู้คน เพื่อนสนิท และเพื่อนร่วมโลก เพียงแค่สร้างบล็อกก็เท่ากับได้เข้าไปยังโลกของผู้คนนับล้าน ๆ อย่างรวดเร็ว
          การเข้าสู่โลกไซเบอร์ ใช่ว่าจะมีทางเข้าได้แค่เพียง เครื่องคอมพิวเตอร์ พีซี เท่านั้น ปัจจุบัน โทรศัพท์มือถือ และ พีดีเอโฟน ก็สามารถ
เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้อย่างสะดวก และ ง่ายดาย แม้ว่าจะมีค่าบริการเพิ่มขึ้น แต่ก็หาใช่เรื่องที่ต้องให้คิดหนัก การจ่ายเงินเพื่อตอบสนองความ
ต้องการของชีวิตนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกต่อไป โดยเฉพาะวัยรุ่น ถึงแม้วัยรุ่นจะไม่สามารถหารายได้ด้วยตัวเอง หากมีผู้ปกครองสนับสนุนและพร้อม
ที่จะจ่ายให้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่อาจจะเพราะวิถีชีวิตในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปการทำมาหากินรีบเร่ง และไม่มีเวลาจะดูแล
ครอบครัวด้วยตัวเองจึงทำให้ต้องพึ่งพาอุปกรณ์สื่อสารและเทคโนโลยีเข้ามาเป็นเพื่อนทดแทน
          นอกจาก การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ที่เป็นที่นิยมใช้แล้ว ยังมีการใช้ระบบบริการการสื่อสารทางเทคโนโลยีทางอื่นอีก อาทิ การส่งข้อความ
ที่เรียกว่า Short Message Service (SMS) เป็นการส่งข้อความตามระบบเครือข่ายโทรศัพท์ที่ใช้ สะดวก รวดเร็ว แต่สามารถส่งได้เฉพาะ
ข้อความเท่านั้น หากต้องการส่งข้อความพร้อมกับรูปภาพ หรือ ภาพเคลื่อนไหว ต้องส่งผ่านระบบการส่งข้อความมัลติมีเดีย หรือ Multimedia
Messaging Service (MMS) การส่งแบบนี้สามารถให้ความชัดเจนเพราะมีพร้อมทั้งข้อความและภาพประกอบ ปัจจุบันเป็นที่นิยม ค่าใช้จ่าย
ในการส่งก็มีการปรับลด พร้อมทั้งมีโปรโมชั่นให้เลือกใช้มากมาย เป็นการกระตุ้นการใช้งานของกลุ่มผู้บริโภคได้ดีทีเดียว การเชื่อมต่อและการ
ติดต่อทางเทคโนโลยีสื่อสาร แบบโทรศัพท์มือถือ และ พีดีเอโฟน ไม่ได้จบเพียงเท่านั้น มีการเชื่อมต่ออีกประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้
กัน “ระบบบลูทูธ” (Bluetooth) ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อโดยผ่านระบบไร้สาย (wireless) ในระยะทางอันใกล้โดยผ่านทางคลื่นวิทยุ มีสัญลักษณ์เป็น
“สีฟ้า” การเชื่อมต่อต้องผ่านเครื่องมือสื่อสารที่มีการติดตั้งระบบบลูทูธเช่นเดียวกัน ได้แก่ ระหว่างโน้ตบุ๊ก กับ โน้ตบุ๊ก, โน้ตบุ๊ก กับ มือถือ หรือ
พีดีเอ โฟน หรือแม้กระทั่ง หากต้องการใช้บลูทูธกับตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ พีซี ก็สามารถซื้อบลูทูธแบบ USB แล้ว Install ลงเครื่องคอมพิวเตอร์ เท่านี้ก็สามารถใช้การเชื่อมต่อและส่งข้อมูลผ่านระบบบลูทูธ ได้แล้ว
          การเชื่อมต่อผ่านสายเคเบิ้ล หรือ Data Cable โดยมากเป็นการเชื่อมต่อระหว่าง โทรศัพท์มือถือ, พีดีเอ โฟน กับ เครื่องคอมพิวเตอร์ พีซีหรือ โน้ตบุ๊ก ใช้ในวัตถุประสงค์ของการดาวน์โหลด Download ข้อมูล ภาพ วีดีโอ หรือ ความบันเทิงต่าง ๆ อุปกรณ์จำเป็นในการเชื่อมต่อ
ประเภทนี้ก็คือ Data Cable ซึ่งโดยมากจะเป็นอุปกรณ์ที่มาพร้อมกับตัวเครื่องโทรศัพท์มือถือ และ พีดีเอ โฟน อาจจะมีบางรุ่นที่อุปกรณ์นี้ไม่ได้
มาพร้อมกับตัวเครื่อง สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าที่ขายอุปกรณ์มือถือซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวจะไม่ใช่ของต้นตำรับ (Original) แต่เป็นของเลียนแบบ หรือ Third Party สามารถใช้งานเช่นเดียวกัน
          เมื่อกล่าวถึง การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแล้ว เมื่อก่อนการเชื่อมต่ออินเตอร์จะเป็นแบบผ่านสายโทรศัพท์พื้นฐาน โดยจะมีการหมุนหมาย
เลขในการเชื่อมต่อ ปัจจุบันการเชื่อมต่อมีหลายทาง ทั้งทางไร้สาย (Wireless) โดยผ่าน Wireless Router การเชื่อมต่อแบบนี้สามารถใช้งาน
ได้คราวละหลาย ๆ เครื่อง และหลายอุปกรณ์ ทั้ง เครื่องคอมพิวเตอร์ พีซี, โน้ตบุ๊ก, โทรศัพท์มือถือ และ พีดีเอ โฟน เพียงแค่เปิดการเชื่อมต่อ
แบบ Wireless ที่ตัวเครื่อง การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน Golbal Positioning System หรือ GPS เป็นการส่งสัญญาณผ่านระบบดาวเทียม
มายังจุดรับสัญญาณ GPS ซึ่งใช้ในการบอกตำแหน่งได้ด้วย การเชื่อมต่อแบบนี้ จะต้องมีการเปิดสัญญาณกับทางเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่ใช้
อยู่ และโทรศัพท์มือถือที่ใช้อยู่จะต้องรองรับการเชื่อมต่อแบบ GPS ด้วย เมื่อทำการเปิดสัญญาณแล้ว ทีนี้ก็สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน
ระบบ GPS ได้ ซึ่งวิธีการเชื่อมต่อระหว่าง โทรศัพท์มือถือ หรือ พีดีเอโฟน ไปยัง เครื่องคอมพิวเตอร์ พีซี หรือ โน้ตบุ๊ก นั้น สามารถเชื่อมต่อ
ได้หลายทาง เช่น โดยผ่าน ระบบบลูทูธ, สาย Data Cable และ ผ่าน SIM Card Reader ซึ่งการเชื่อมต่อประเภทนี้จะต้องมีอุปกรณ์จำเป็น
ก็คือ USB SIM Card Reader อุปกรณ์นี้สามารถอ่านข้อมูลใน SIM Card พร้อมกับบันทึกข้อมูล และเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้อย่างไม่ยุ่งยาก
และโดยตรงผ่าน เพียงแค่เสียบเข้าที่ USB Port แล้วทำการ Install โปรแกรมของ USB นั้น ๆ ก็สามารถใช้งานได้แล้ว ในบางประเทศมีการ
ใช้งานแบบนี้อย่างแพร่หลาย อาทิเช่น ประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง ประเทศสิงคโปร์ มีการโปรโมทการใช้งานประเภทนี้
อย่างมาก และผู้คนก็

          หันมาใช้ประเภทนี้มากขึ้น เพราะให้ความสะดวกในการพกพา เพียงแค่ซื้อ SIM Card ต่างหากที่ต้องการใช้เฉพาะการเชื่อมต่ออินเตอร์
ทางเครือข่ายก็จะมีอุปกรณ์ USB SIM ซึ่งพร้อมใช้งานได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว สำหรับประเทศไทย การใช้งานแบบนี้ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย
อุปกรณ์ USB SIM Card Reader จึงค่อนข้างมีราคาที่สูง

          สำหรับความเห็นส่วนตัวแล้ว ข้าพเจ้าคิดว่า การใช้งานเชื่อมต่อแบบ USB SIM ก็คล้าย ๆ กับการใช้งานผ่าน สาย Data Cable ของ
โทรศัพท์มือถือ หรือ พีดีเอ โฟน เพียงแต่ หากมีการเชื่อมต่อผ่านมือถือ และมีสายเข้าก็อาจจะทำการรบกวนคลื่นการเชื่อมต่อ ซึ่งหากเป็น
USB SIM จะไม่ได้รับการรบกวนใด ๆ เท่านั้นเอง

          อีกอย่างที่อยากกล่าวถึงในที่นี้ สำหรับผู้ที่รักการ Chat, Blog และ Search Engine ต่าง ๆ ปัจจุบันนี้สามารถทำสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้บน
โทรศัพท์มือถือ และ พีดีเอ โฟน ได้แล้ว เพียงแค่ ทำการ Download โปรแกรมนั้น ๆ ลงบนอุปกรณ์ที่ใช้อยู่ เท่านี้ก็ไม่พลาดการ Chat, Blog
และ Search Engine อีกต่อไป

          นี่ล่ะ ชีวิตในยุคโลกไซเบอร์และการสื่อสารไร้พรมแดน ทำให้โลกอันกว้างใหญ่แคบลงมาถนัดตา เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส อยากไปที่แห่ง
ใด ไกลแค่ไหน ก็ใช้แค่มือ และ เม้าท์ คลี๊กเข้าไป แค่นี้ชีวิตก็ได้มองเห็นกว้างไกล แต่ใคร่อยากแนะนำสักเล็กน้อย โลกไร้พรมแดน ไปแล้วก็
จริง ขอให้ใช้อย่างมีสติ ระมัดระวัง และให้ได้ประโยชน์มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อยากให้เกิดทุกข์ เกิดโทษกับตัวเองและผู้อื่น ให้โลกไซเบอร์และการสื่อสารไร้พรมแดน เป็นโลกที่สวยงาม อิสระ และน่าอยู่ต่อไปอีกนานเท่านาน…